วันเสาร์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2553

My Trip on Today ( 4 Sep 10 )


      อีกหนึ่งวันที่ผ่านไป..บนเส้นทางสายเดิม กับชีวิตที่ยังคงดิ้นรน เพื่อแสวงหาอะไรบางอย่าง(ทั้งที่ยังไม่รู้ว่ามันคืออะไร)  หลังจากขับรถเรื่ิอยเปื่อยอย่างไร้จุดหมายมาครึ่งค่อนวัน  สุุดท้ายก็มาจอดนิ่งสนิทลงที่ข้างฟุตบาททางเดินริมทะเลอย่างไม่รู้ตัว..

     บรรยากาศริมทะเลในยามเย็นของชลบุรีวันนี้ดูเศร้าๆพิกล คงเพราะกลุ่มเมฆที่ตั้งเค้าตั้งแต่บ่าย กระจายตัวปกคลุมทั่วท้องฟ้า ชวนให้ทุกสายตาที่ทอดมองดูหม่นหมองตามไปด้วย

   

      ห่างออกไปไม่ไกลนัก.. เรือหาปลาลำเล็กจอดทอดสมอ นิ่งสงบไร้วี่แววของคนพาย คงเพราะลมแรงและเมฆกลุ่มก้อนมหึมาที่แผ่คลุมทั่วท้องทะเล ดูคล้ายมัจจุราชที่จ้องมองมา เลยไม่มีเรือลำไหนกล้าออกห่างฝั่ง..


           
        ริมฟุตบาททางเดินและบนท้องถนน.. ผู้คนยังคงสัญจรไปมาไม่ขาดสาย บ้างก็วิ่งออกกำลังกาย บ้างก็ปั่นจักรยานเสือภูเขามาเป็นกลุ่ม  แต่บางคนก็ให้หมาพามาเดินเล่นในยามเย็น(เดินตามหลังหมา) จนกลายเป็นกิจวัตรในยามเย็น..


 
      บนท้องฟ้า.. เมฆก้อนดำทะมึนเคลื่อนตัวลงต่ำผ่านไปในระยะเฉียดยอดตึก ตามแรงลมที่พัดเข้าหาฝั่ง  ส่งให้่เม็ดฝนโปรยปรายลงมาห่าใหญ่ ก่อนจะจางหายไป พร้อมก้อนเมฆที่เคลื่อนผ่านเลยไป..
     

 
      แสงสีทองที่ส่องประกายตรงเส้นขอบฟ้า มองเห็นลิบลับสุดสายตา ใกล้อ่อนแรงเต็มที 
อีกไม่นานแล้วสินะ เมื่อแสงสุดท้ายของสายสุรีย์ ลับหายจากแผ่นฟ้าและท้องทะเลไป  รัตติกาลอันมืดมิด ก็คงจะคืบคลานเข้ามาแทนที่..  

     กลุ่มวิหกบนท้องฟ้า บินร่อนถล่าเข้าสู่ฝั่ง สัญญาณแห่งการดิ้นรน การทำมาหากินของวัน ได้สิ้นสุดลง ..คงถึงเวลาที่เราเองก็ต้องกลับที่พักเช่นกันแล้วสินะ


    ...................................................................................................................


      ขับรถผ่านมาทางสะพานปลา กะว่าจะไปหาอะไรรองท้องสักหน่อย ที่ตลาดโต้รุ่งหน้าศาลมีของกินอร่อยๆหลายร้าน ไม่ได้มาเสียนาน ถือโอกาศแวะเวียนระลึกความหลังสักหน่อยก็ดี...    


   



พอดีสายตา เหลียบไปเห็นแสงสี ข้างทาง มีป้ายปักเรียงรายเป็นระยะ เขียนข้อความเดียวกัน "ตลาดประมง ท่าเรือพลี"
   ชั่วขณะจิต ที่ีคิดเปลี่ยนใจกระทันหัน "แวะเดินตลาดที่นี่ดีกว่า" เพราะตั้งแต่เปิดมายังไม่เคยมาเดินเลย  ได้ยินแต่ข่าวประชาสัมพันธ์ จากสื่อต่างๆ











     
     ขับรถผ่านเลยทางเข้าไปไม่ไกลนัก มองเห็นมีช่องว่างข้างหน้า เลยชะลอรถตีไฟเลี้ยงซ้าย ก่อนจะบังคับ Chevrolet Colorado คู่ใจให้เคลื่อนเข้าไปจอดนิ่งสนิทแล้วปิดเครื่อง ชิดริมฟุตบาทข้างทาง
   อย่างไม่รอช้าที่จะได้สัมผัสกับบรรยากาศตลาดนัดยามค่ำคืน  ดวงไฟหลากสีส่องสว่างสวยงามตรงประตูทางเข้า บ้างห้อยระย้าประดับประดาตามทางเดิน ทอดยาวเข้าไปในซอยลึก





    มองลงไปข้างล่างริมทางเดิน  เรือประมงหลายลำจอดนิ่งสนิท แต่ไม่วายโยกคลอนไปมาตามแรงคลื่นที่ซัดขึ้นลง .. แสงจากดวงไฟหลากสี ส่องสะท้อนผิวน้ำ ระยิบระยับพร่างพราวไปมาตามแรงกระเพื่อมของท้องทะเล มองดูคล้ายระบำดวงดาว..สวยงามไปอีกแบบ










       เรือลำใหญ่ .ถูกยกมาวางใว้ตรงทางเข้า เหมือนเป็นสัญลักษณ์ของงาน ให้ผู้ัมาเดินเที่ยว ได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด บ้างก็ถ่ายรูปคู่เป็นที่ระลึก  เด็กๆหลายคงปีนลงไปเล่นกันอย่างสนุกสนานตามประสา..
      เสียงเจ้าหน้าที่ในงาน ประชาสัมพัธ์ผ่านเครื่องขยายเสียง บอกเล่าเรื่องราว ความเป็นมาของตลาด "ท่าเรือพลี" และเชิญชวนผู้มาเยือนให้อุดหนุนร้านค้าต่างๆ ที่เรียงรายตามสองข้างทาง







       อาจเพราะยังไม่ดึกมากนัก ผู้คนจึงยังคงดูหนาตา.. บรรดานักช๊อปริมทางทั้งหลาย เดินเลือกซื้ออาหารทะเลสดๆใหม่ๆกันขวักไขว่   บ้างก็ยืนเข้าคิวรอซื้ออาหารจานด่วนสดๆร้อนๆจากกระทะ  ที่ส่งกลิ่นหอมฟุ้งยั่วยวนต่อมน้ำลายยิ่งนัก..



 
      หลังจากที่เดินดูผู้คนและอาหาร ตลอดจนสีสันภายในงานจนเมื่อยแล้ว ก็มาหยุดที่หน้่าร้านผัดไทยร้านนี้ ทั้งสีสัน กลิ่นหอม และความสดนั้นไม่ต้องพูดถึง ส่วนรสชาดคงต้องลิ้มลองดูกันเอง  แต่ในงานนี้ ทางผู้จัดเขารับประกันทุกๆร้านว่า สด สะอาด รสชาดอร่อย.. 

     สำหรับเพื่อนๆ ใครที่ยังไม่เคยมาเที่ยว "ตลาดประมง ท่าเรือพลี" ก็ลองแวะมาเยี่ยมชม เยี่ยมชิมกันได้นะครับ..  งานนี้มี ทุกวันเสาร์ สี่โมงเย็น เป็นต้นไป..

 

 ...................................................................................................................
**********************************************************

2 ความคิดเห็น:

  1. ใครที่ยังไม่เคยมา รีบมาเที่ยวนะครับ..บรรยากาศตลาด ริมทะเลในยามเย็น น่าเดิน และเพลิดเพลินไปอีกแบบ..

    ตอบลบ
  2. หยาดฝนมิเคยห่างหายไปจากท้องฟ้าฉันใด หยาดน้ำตาย่อมไม่มีวันเหือดแห้งไปจากใบหน้าของผู้ซึ่งยังหลงใหลในความรักฉันนั้น..

    ตอบลบ