วันอาทิตย์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ทริป หัวหิน เพลินวาน (ตอนจบ)

สถานีรถไฟหัวหิน..   

      หลังจากเที่ยวเดินที่ เพลินวาน อย่างจุใจ จวนตะวันคล้ายบ่ายคล้องลอยลงต่ำแล้ว..พวกเราก็ออกเดินทางต่อไปยัง สถานีรถไฟหัวหิน อันเป็นจุดหมายสุดท้ายของทริปนี้..

 
       เรามาถึงสถานีหัวหินเมื่อใกล้จะห้าโมงเย็นแล้ว  ซึ่งนับว่าเป็นความโชคดีอย่างหนึ่งของพวกเรา เพราะอีกไม่นานก็จะได้เวลารถไฟเข้าเทียบสถานีแล้ว(ไม่ต้องรอนาน) เป็นโอกาศอันดีที่จะได้เก็บภาพตอนที่รถไฟวิ่งเข้าเทียบชายชลา..


        สถานีรถไปหัวหิน นับเป็นสถาปัตยกรรมที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น สะดุดทุกสายตาที่พบเห็น ซึ่งจะสังเกตุได้จากนักท่องเที่ยวทั้งไทยและเทศที่มาเยือน..ต่างอดใจไม่ไหวที่จะถ่ายภาพคู่กับสถานที่แห่งนี้กลับไปเป็นที่ระลึกและอวดเพื่อนๆว่า ครั้งหนึ่ง..ได้มาถึงสถานีรถไฟอันเป็นตำนานแห่งนี้..

   
      โดยเฉพาะป้่าย หัวหิน ที่ตั้งตระหง่านอยู่ก่อนถึงสถานี เสมือนเป็นสัญลักษณ์หรือโลโก้ของที่นี้ก็ว่าได้ ที่ใครๆถ้ามาถึงที่นี่แล้ว ก็ต้องขอเก็บภาพมุมนี้ใว้ในความทรงจำ..


        อีกจุดหนึ่งที่หน้าสนใจไม่แพ้กันคือ "พลับพลาพระมงกุฎเกล้าฯ" เป็บพลับพลาจตุรมุขที่สร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระมงกุฎเกล้าฯ เดิมมีชื่อว่า "พลับพลาสนามจันทร์" เคยตั้งอยู่ที่บริเวณสนามจันทร์ จ.นครประฐม แต่เมื่อสิ้นรัชสมัย จึงได้ทำการรื้อถอนมาเก็บใว้ และต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2511 ก็ได้นำมาปลูกสร้างขึ้นใหม่ที่หัวหินแห่งนี้ เพื่อให้เป็นที่ประทับขึ้นและลงรถไฟของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว..

 
       ในระหว่างนั่งรอขบวนรถไฟซึ่งอีกไม่นานก็คงจะคืบคลานมาถึง. เลยถือโอกาสเก็บภาำพบรรยากาศ รอบๆสถานีรถไฟ มาฝากเพื่อนๆกันครับ..

 
       มุมนี้ถ่ายย้อนจากฝั่งตรงข้ามทางรถไฟ  ซึ่งด้านนี้จะมีซากรถไฟโบราณจอดนิ่งสงบ ราวอนุสาวรีย์รถไฟ.. รอนักท่องเที่ยวมาถ่ายภาพคู่เป็นที่ระลึกประหนึ่งซูปเปอร์สตาร์..


        สาวสวยคนนี้เป็นนางแบบบังเอิญอ่ะครับ..(ไม่ใช่รับเชิญ) ไม่รู้ติดเข้ามาในเมมโมรี่หัวใจเฮ้อ!..  เมมโมรี่กล้องได้อย่างไร หากใครพบเห็นหรือรู้จักเจ้าตัว ช่วยบอกให้ติดต่อกลับด้วยนะครับ..จะมีรางวัลให้อย่างงาม

         สงสัยคงได้เวลาที่รถไฟจะเข้าเทียบชานชลาแล้วกระมัง  เพราะมองข้ามทางรถไฟไป เห็นสาวๆโบกกันใหญ่เลย.. ไม่รู้ว่าเป็นรถไฟขบวนสุดท้ายกันหรือเปล่า ถึงเร่งโบกขนาดนั้น..   


       และแล้ว..เจ้ากิ้งกือเหล็ก ที่เปิดหวูดมาแต่ไกล ก็ค่อยๆคืบคลานเข้ามาเทียบชานชลา ก่อนจะหยุดนิ่งลงอย่างช้าๆ ตรงหน้าสถานี..
    
    
       บรรดาพ่อค้าแม่ขาย ต่างไม่รอช้าที่จะหอบหิ้วสิ้นค้าของตนขึ้นไปนำเสนอ มีตั้งแต่ข้าวเหนียว ไก่ย่าง ข้าวกล่อง น้ำอัดลม ถั่วต้ม ขนมขบเคี้ยว และหมากฝรั่ง ฯลฯ เป็นต้น ถือเป็นนาทีทองของนักธุรกิจข้างราง ที่ต้องฉกฉวยให้ท่วงทันเวลา ก่อนที่นายสถานนี้จะให้สัญญาณหมดเวลา และเจ้ากิ้งกือเหล็กลำยาว ก็ค่อยๆเคลื่อนตัวออกไป ทิ้งเพียงร่อยรอยและรางรถไฟว่างเปล่าใว้เบื้องหลัง ดูเป็นภาพบรรยากาศแสนคลาสสิคของผู้มาเยือนที่คอยเฝ้ามอง แต่กลับเป็นภาพชินตาของผู้คนที่นี่...


         
         ชีวิตเราเอง..ก็เฉกเช่นการเดินทางของขบวนรถไฟ  ต่างกันก็ตรงที่ระยะทางและรางวิ่ง จะราบรื่นหรือยาวไกลเพียงใด  แต่ถึงยังงัยสักวันหนึ่ง ก็ต้องไปถึงจุดหมายเดียวกัน..

        และแล้ว ทริปหัวหิน เพลินวาน ก็เดินทางมาถึงตอนอวสานกันเสียที  คงได้แต่เก็บภาพอันแสนประทับใว้ในความทรงจำไปอีกนานแสนนาน.. และหากเพื่อนๆมีโอกาศเดินทางมาเที่ยวหัวหิน ก็อย่าลืมแวะมาที่ สถานีรถไฟหัวหินแห่งนี้กันนะครับ หรือจะตระเวนเที่ยวตามเส้นทางทริป ที่ผมแนะนำไว้่ก็ยิ่งคุ้มค่ากับการเดินทาง เพราะวันเดียวเที่ยวได้ตั้งหลายที่.
 
        แล้วพบกันใหม่ในทริปหน้านะครับ..ใน  กินไปเที่ยวไปกับนายMK..

    จบทริป หัวหิน เพลินวาน
   +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

1 ความคิดเห็น:

  1. ชีวิตคือการเดินทางไกล คิดแล้วก็รีบออกก้าวเดิน ก่ิอนที่จะไม่มีแรงเดิน..

    ตอบลบ