วันเสาร์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2554

เขาค้อ เพชรบูรณ์

ทริปเขาค้อ เพชรบูรณ์ ตอนที่1

  

      เมื่อลมหนาวมาเยือน..

      สายลมเย็นยะเยือกพัดผ่านมาอีกครั้ง .. เสียงหวีดหวิวเมื่อยามสายลมพัดต้องกิ่งไม้ใบหญ้า ฟังดูวังเวงเงียบเหงาชอบกล  แต่บางขณะก็เหมือนสอดแทรกท่วงทำนองจังหวะชีวิต และความหวังแห่งการรอคอยเอาใว้..
      ดอกหญ้าสองข้างทางลู่เอนไหวไปมาตามแรงลม  ประหนึ่งคู่รักที่พลัดพรากจากไปนานได้หวนกลับมาพบเจอกันอีกครั้ง เฝ้าคลอเคล้าหยอกล้อต่อกระซิก ปลอบประโลมกันอย่างมีความสุข..ไม่สนใจต่อสายตาของนกกระจอกตัวผู้ที่เกาะบนกิ่งไม้ จ้องมองลงมาอย่างอิจฉา..



ดอกหญ้าข้างทาง ..ที่เชิงเขาย่า
             
       กระบะ Colorado สีประตูสีดำเปิดไปตัดหมอกวิ่งผ่านความมืดสลัวในยามเช้าตรู่ของฤดูหนาว ขับลัดเลาะไปตามป้ายบอกทาง ไต่ความสูงชัน และทางคดเคี้ยวบางช่วงเขา เพื่อมุ่งหน้าสู่ อ.เขาค้อ อันเป็นจุดหมายปลายทางของเช้าวันแรกแห่งการเดินทาง..


     เช้าวันนี้ที่เขาค้อ..
   
     อณูแห่งความหนาวเย็นยังคงแผ่คลุมทั่วบริเวณยอดดอย แม้ม่านหมอกที่ขาวโพลนเมื่อตอนเช้ามืดจะจางหายไปบ้างแล้วก็ตาม แต่ยังคงทิ้งกลิ่นไอและสัมผัสเยือกเย็นเอาใว้ให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสกันอย่างทั่วถึง..
     หลังจากขับรถมาทั้งคืน ในที่สุดก็มาเช้าที่เขาค้อ ตามที่วางแผนเอาใว้ เพื่อมารับบรรยากาศยามเช้าที่พระตำหนักเขาย่า ก่อนจะตระเวณหาที่กางเต๊นท์นอนค้างสักคืน เผื่อจะได้อายุยืนขึ้นบ้าง  ตามป้ายที่เขาโฆษณาเอาใว้ว่า "พักเขาค้อหนึ่งคืน อายุยืนหนึ่งปี"  สงสัยว่าเจ้าหน้าที่ที่ทำงานและพักอยู่ที่นี่คงอายุยืนหลายพันปีเป็นแน่เชียว...
             

ลานสนบนเขาย่า
                                      

       บนยอดดอย..สายลมยังคงพัดโชยไม่ขาดสาย หอบเอาความหนาวเย็นมากระทบผิวกายให้สั่นสะท้าน แม้จะใส่เสื้อกันหนาวสวมทับโปโลที่อยู่ข้างในอีกชั้นก็แค่พอบรรเทาเท่านั้น..
       หลังจากกระชับเสื้อกันหนาวให้มิดชิด ปิดป้องไอหนาวที่จะลอดผ่านเข้าไปสัมผัวผิวกายแล้ว ก็ออกเดินสำรวจสภาพพื้นที่บนเขาย่า เก็บภาพต้นไม้ใบหญ้าและดอกไม้  ยืนรับลมชมวิวพอสมควร และมาจบลงที่ข้าวต้มหมูสับเห็ดหอมร้อนๆ ..  พอประทังความหิวและขับไล่ความหนาวเย็นไปจากร่างกายได้บ้าง...
 
ข้าวต้มหมูสับเห็ดหอม..
   
นี่ก็..ต้นสนบนเขาย่า 
  
      ไม่รู้ว่ากงล้อเวลาหมุนเคลื่อนผ่านไปกี่โมงยามแล้ว.. เหลียวขึ้นมองท้องฟ้าเบื้องบูรพาอีกที แสงสีทองได้ลับหายไปจากเส้นขอบฟ้าเสียแล้ว..
     ชีวิตกับการเดินทางเป็นของคู่กันฉันใด การพบและการจากลาก็คงไม่ต่างกัน.. คงถึงเวลาที่ต้องกล่าวอำลาด้วยสายตาที่อาลัยเสียแล้วสินะ..  เพียงหวังใจใว้ว่า สักวันหนึ่ง คงได้มีโอกาศกลับมาเยือนอีกครั้งนะ.."เขาย่า"..  

ดอกหญ้าเหงา..บนเขาย่า
                           ..สายลมพัดพริ้วปลิวไหว
                         ดอกหญ้าแกว่งไกวสะท้าน
                         วอนสายลมช่วยพัดนานๆ 
                         ให้ดอกหญ้าก้าวผ่านวันเหงาใจ..



   
         ร้านแนะนำ: เขาค้อกาแฟสด

เขาค้อกาแฟสด ..ทางขึ้นเขาย่า
       
รอนานหน่อย..วันนี้คนเยอะเป็นพิเศษ.
  
อีกมุมหนึ่งในร้าน เขาค้อกาแฟสด
   
มีโปสการ์ดสวยๆจำหน่ายด้วย
  
อีกมุมหนึ่ง..กังหันลมคาบอย


        "เขาค้อกาแฟสด"  อยู่ตรงทางขึ้นเขาย่าด้านซ้ายมือ เหมาะสำหรับแวะพัก จิปกาแฟ แก้กระหายคลายง่วง ก่อนออกเดินทางต่อ ที่ร้านมีพื้นที่ให้นักเดินทางนั่งพักและเดินเล่น แวะเข้าห้องน้ำ  มีมุมสวยๆให้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกด้วย  ถ้าได้ผ่านไปก็อย่าลืมแวะชิมกาแฟสดที่นี่นะครับ..

  
       หอสมุดนานาชาติเขาค้อ

       หอสมุดนานาชาติเขาค้อ ตั้งอยู่ที่หมู่ 4 บนเขาค้อ ที่บ้านกองเนียม  ตำบลเขาค้อ เป็นหอสมุดขนาดใหญ่ออกแบบเป็นรูปเพชรคว่ำ  สร้างด้วยกระจกสะท้อนแสง ภายในเก็บรักษาหนังสือทั้งภาษาไทยและภาษาต่างประเทศ ในเดือนธันวาคมของทุกปีจะมีการจัดงาน “วันนัดพบเอกอัครราชทูต ณ เขาค้อ” โดยเชิญเอกอัครราชทูตจากประเทศต่าง ๆ มาร่วมชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมของจังหวัด 
    
เจดีย์ที่ตั้งอยู่ในเขตหอสมุดนานาชาติเขาค้อ
         หอสมุดฯ เปิดให้เข้าชมทุกวัน ค่าธรรมเนียมเข้าชมหอสมุดนานาชาติเข าค้อ  10 บาท/คน แต่เสียดายที่มีเวลาจำกัดเลยไม่ได้เข้าไปเยี่ยมชม..
 
สวนดอกไม้ สีสันสวยงาม ในบริเวณหอสมุดฯ


        หอสมุดฯ แห่งนี้ นับเป็นสถานที่ที่สวยงามและน่าสนใจอีกแห่งหนึ่งของเขาค้อ เพราะเป็นทั้งแหล่งการเรียนรู้และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนไปในตัว..
   


        
        พิพิธภัณฑ์อาวุธ  (ฐานยิงสนับสนุนอิทธิ)

        ในบรรดาสิ่งประดิษฐ์ที่มนุษย์คิดค้นและผลิตขึ้นบนผืนพิภพนี้ มีทั้งเป็นไปเพื่อสร้างสรรค์และทำลายล้าง  "อาวุธ"  ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่มนุษย์คิดค้นขึ้นมาเพื่อประหัดประหาร ทำลายล้างฝ่ายตรงข้าม ที่เรียกว่า ศัตรู อาจเพียงแค่เพราะความคิดเห็นไม่ตรงกัน หรือไม่ยอมก้มหัวให้ผู้มีอำนาจเท่านั่นเอง ..

ทางเข้าพิพิธภัณฑ์อาวุธ


ภายในมีเฮลิคอปเตอ์ รถถัง และฐานยิงปืนใหญ่  ที่ใช้สู้รบในสมัยก่อน

         พิพิธภัณฑ์อาวุธ (ฐานอิทธิ) ตั้งชื่อตาม พันเอก อิทธิ สิมารักษ์ ผู้มีบทบาทสำคัญในการต่อสู้ยึดพื้นที่เขาค้อคืนจาก ผกค.ในปี พ.ศ.2524 บริเวณนี้เคยเป็นฐานปืนใหญ่ ยิงสนับสนุนการ สู้รบ ปัจจุบันจัดให้ เป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง มีอาวุธยุทโธปกรณ์ ที่ใช้ในการสู้รบตั้งอยู่มากมาย เช่น เครื่องบินขับไล่ เอฟ 5 รถสายพานลำเลียงพล ปืนใหญ่ ปืนใหญ่ขนาด 105 มม. จำนวน 2 กระบอก ปืนใหญ่ ขนาด 155 มม. ยิงได้ไกล 11 กิโลเมตร 1 กระบอก ฯลฯ

       ภายในอาคารมีห้องบรรยายสรุปเกี่ยวกับเหตุการณ์ ในยุทธภูมิเลือดเขาค้อ มีห้องจัดนิทรรศการ เกี่ยวกับอุปกรณ์ เครื่องใช้ เสื้อผ้า อาวุธของคอมมิวนิสต์ ส่วนด้านนอกอาคารยังมีฐานอาวุธ จัดแสดงอาวุธยุทโธปากรณ์ เช่น ซากปืนใหญ่ รถถัง รถแทรกเตอร์ บังเกอร์หลบภัย แต่ละจุดมีป้ายประวัติพร้อมคำอธิบายประกอบ    
วิวด้านข้าง  ฐานอิทธิ..มองไปสุดสายตา


ศาลาพระบรมรูปสมเด็จพระนเรศวร(ด้านหน้าทางเข้า)


         ยังไม่จบเพียงแค่นี้ครับ..เขาค้อยังมีสถานที่อีกหลายแห่งให้เที่ยวชม ไม่ว่าจะเป็นอนุสรณ์สถานผู้เสียสละ พระบรมสารีริกธาตุเจดีย์  ไร่บีเอ็น  แคมป์สน  น้ำตกศรีดิษฐ์   ผาซ่อนแก้ว..ฯลฯ 

         ติดตามเรื่องราว การเดินทางในทริปต่างๆเหล่านี้ได้ใน  "ทริปเขาค้อ เพชรบูรณ์ ตอนที่2 "  เร็วๆนี้..

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น